วันที่นำเข้าข้อมูล 26 ต.ค. 2566

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 17 ก.ค. 2568

| 3,801 view

วาระการพัฒนาที่ยั่งยืน พ.ศ. 2573 (2030 Agenda for Sustainable Development) เป็นแผนปฏิบัติการระดับโลกที่ได้รับการรับรองโดยรัฐสมาชิกสหประชาชาติในที่ประชุมสหประชาชาติระดับสุดยอดว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2015 (UN Sustainable Development Summit 2015) เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2558 โดยเป็นการสานต่อจากภารกิจของเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (Millenium Development Goals : MDGs) ซึ่งสิ้นสุดปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ.2015)

วาระการพัฒนาที่ยั่งยืน มุ่งเน้นการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ซึ่งประกอบด้วยเป้าหมายที่ครอบคลุมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม จำนวน 17 เป้าหมายหลัก และ 169 เป้าหมายย่อย ให้บรรลุผลภายในปี พ.ศ. 2573 (ค.ศ. 2030) 

ซึ่ง 17 เป้าหมายหลักได้แก่

เป้าหมายที่ 1 การยุติความยากจน (No Poverty)

เป้าหมายที่ 2 ยุติความหิวโหย (Zero Hunger) 

เป้าหมายที่ 3 มีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-being)

เป้าหมายที่ 4 การศึกษาที่มีคุณภาพ (Quality Education)

เป้าหมายที่ 5 ความเสมอภาคระหว่างเพศ (Gender Equality)

เป้าหมายที่ 6 การจัดการน้ำและสุขาภิบาล (Clean Water and Sanitation)

เป้าหมายที่ 7 พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้ (Affordable and Clean Energy)

เป้าหมายที่ 8 งานที่มีคุณค่า และการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Decent Work and Economic Growth)

เป้าหมายที่ 9 อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน (Industry, Innovation and Infrastructure)

เป้าหมายที่ 10 ลดความไม่เสมอภาค (Reducted Inequalities)

เป้าหมายที่ 11 เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน (Sustainable Cities and Communities)

เป้าหมายที่ 12 การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน (Responsible Consumption and Production)

เป้าหมายที่ 13 รับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Action)

เป้าหมายที่ 14 คุ้มครองทรัพยากรทางทะเล (Life Below Water)

เป้าหมายที่ 15 อนุรักษ์ระบบนิเวศทางบก (Life on Land)

เป้าหมายที่ 16 สังคมสงบสุข ยุติธรรม ไม่แบ่งแยก (Peace, Justice and Strong Institution)

เป้าหมายที่ 17 หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Partnerships for the Goals)

 

การขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทย

ไทยให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน และการบรรลุ SDGs โดยมีโครงสร้าง การขับเคลื่อน SDGs ในระดับประเทศที่เป็นรูปธรรม มีการบูรณาการ SDGs เข้ากับแผนการพัฒนาประเทศภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 และ 13 รวมทั้งแผนแม่บทต่าง ๆ เพื่อให้การกำหนดทิศทางการพัฒนาของประเทศไทยสอดรับเป็นเนื้อเดียวกันกับวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับโลก

นอกจากนี้ ไทยยังน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy : SEP) ซึ่งเป็นพระราชดำริของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาใช้เป็นแนวทางการดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนการบรรลุ SDGs โดยมุ่งเน้นให้การดำเนินการตั้งอยู่บนพื้นฐานของความพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันในตัว รวมทั้ง มีการนำความรู้และหลักคุณธรรมเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพิจารณา

SDGs

 

บทบาทของกระทรวงการต่างประเทศในการร่วมขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

กรมองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมเป็นองค์ประกอบในคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (กพย.) และคณะอนุกรรมการส่งเสริมความเข้าใจและประเมินผลการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงภายใต้ กพย. ซึ่งมีสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นฝ่ายเลขานุการ 

กรมองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างความตระหนักรู้และความร่วมกันเป็นเจ้าของต่อกระบวนการพัฒนาประเทศ และ SDGs ของทุกภาคส่วน โดยส่งเสริมการนำมาตรฐานและแนวปฏิบัติที่ดี ในระดับระหว่างประเทศมาเผยแพร่ให้แก่ภาคส่วนต่าง ๆ ภายในประเทศ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับภาคประชาสังคม ภาควิชาการ เยาวชน ภาคเอกชน รวมถึงภาคนิติบัญญัติในระดับประเทศ โดยสนับสนุนการจัดกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการส่งเสริมการขับเคลื่อน SDGs ในระดับท้องถิ่น (SDGs localisation) ผ่านความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ รวมทั้ง กรมองค์การระหว่างประเทศยังส่งเสริมการเผยแพร่แนวคิดและแนวปฏิบัติที่ดีของไทยด้านการพัฒนาสู่เวทีระหว่างประเทศ อาทิ การใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy – SEP) ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาของไทยในการขับเคลื่อนการบรรลุ SDGs

กระทรวงการต่างประเทศยังเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อน SDGs เป้าหมายที่ 17 (หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา) โดยอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ของไทยในกรอบสหประชาชาติ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการประสานท่าทีระหว่างหน่วยงานภายในประเทศเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 รวมถึงการจัดทำรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ในระดับชาติโดยสมัครใจ (Voluntary National Review – VNR) เพื่อเสนอต่อที่ประชุม High-level Political Forum for Sustainable Development (HLPF)

 

รายงานการทบทวนการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ระดับชาติ โดยสมัครใจ

รายงานการทบทวนการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ระดับชาติโดยสมัครใจ (Voluntary National Review : VNR)  คือรายงานที่รัฐสมาชิกสหประชาชาติต่างๆ ได้จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอความคืบหน้าและความท้าทายของตนในการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อนำเสนอต่อเวทีการหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน (High - Level Political Forum on Sustainable Development : HLPF) ซึ่งจัดขึ้นในช่วงใกล้เคียงกับการประชุมสมัชชาสหประชาชาติทุกปี

การเสนอรายงาน VNR ในเวทีการประชุม HLPF เป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนกับประเทศต่างๆ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาระหว่างรัฐสมาชิกสหประชาชาติ โดยไทยได้ส่งเสริมการให้ความช่วยเหลือเพื่อการบรรลุเป้าหมาย SDGs โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) ซึ่งมีความสากลและนำไปปฏิบัติจริงได้ โดยผลรูปธรรมของการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวได้นำไปสู่การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียงใน 4 ประเทศ และมีการจัดตั้งชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียงในอีก 12 ประเทศ

ที่ผ่านมา ไทยได้เสนอรายงาน VNR ต่อที่ประชุม HLPF แล้ว 2 ครั้ง ได้แก่ ในปี พ.ศ. 2560 และ พ.ศ. 2564 และไทยยังจัดทำรายงาน VNR อย่างไม่เป็นทางการเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาผลวัตของการขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม SDGs และส่งเสริมการทำงานอย่างบูรณาการระหว่างหน่วยงานต่างๆ ในไทย และกระบวนการจัดทำรายงาน VNR ยังสร้างความตระหนักรู้และความสนใจเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนให้แก่สังคม ชุมชน และประชาชนทั่วไป  ทั้งนี้ ไทยมีแผนจะเสนอรายงาน VNR อีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2568

   

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาและ download รายงาน VNR ของไทย

http://www.mfa.go.th/sep4sdgs