166,119 view

ประวัติ UN

  • หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 : การประชุมสันติภาพ ณ กรุงปารีส (The Paris Peace Conference) เห็นชอบให้มีการจัดตั้งสันนิบาตชาติ
  • 28 มิถุนายน 2462 (ค.ศ. 1919) : สันนิบาตชาติ (The League of Nations : LN)
  • สมาชิกก่อตั้ง : 42 ประเทศ
  • สำนักงานใหญ่ : นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส
  • จุดมุ่งหมาย : ป้องกันสงครามและความขัดแย้งในอนาคต
  • ก่อตั้งวันที่ 24 ตุลาคม 2488 (ค.ศ.1945) และวันที่ 24 ตุลาคม จึงถือเป็นวันสหประชาชาติ (United Nations : UN)
  • ประเทศร่วมก่อตั้ง 51 ประเทศ 
  • ประเทศร่วมก่อตั้ง 51 ประเทศ
  • กฎบัตรสหประชาชาติ (UN Charter) มีเนื้อหาเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และหลักการ ตลอดจนกระบวนการดำเนินงานและบริหารงานต่างๆ ขององค์การสหประชาชาติ ถือเป็นตราสารก่อตั้งที่สถาปนาองค์การให้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ มีผลบังคับใช้หลังจากที่ประเทศจีน ฝรั่งเศส สหภาพโซเวียต สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และประเทศอื่นๆ จำนวน 46 ประเทศ ให้สัตยาบัน
  • การประชุมสมัชชาฯ ครั้งแรก : กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (10 ม.ค. 2489)
  • สำนักงานใหญ่ : นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
  • สำนักงานย่อย : 
    • นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส
    • กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา
    • กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย
  • สำนักงานคณะกรรมาธิการภูมิภาคของสหประชาชาติ :
    • คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) : กรุงเทพฯ 
    • คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจสำหรับแอฟริกา (ECA): กรุงแอดดิสอาบาบา สหพันธ์รัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย
    • คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจสำหรับลาตินอเมริกาและแคริบเบียน (ECLAC) : กรุงซานติอาโก สาธารณรัฐชิลี
    • คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียตะวันตก (ESCWA): กรุงเบรุต สาธารณรัฐเลบานอน
    • คณธกรรมาธิการเศรษฐกิจสำหรับยุโรป (ECE) : นครเจนีวา สหพันธรัฐสวิส
  • สมาชิก : 193 ประเทศ (ประเทศสมาชิกล่าสุด คือ สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน – 9 ก.ค. 2554)

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ
  2. เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างประชาชาติทั้งหลาย โดยเคารพหลักการแห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเอง
  3. เพื่อให้บรรลุถึงความร่วมมือระหว่างประเทศในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมหรือมนุษยธรรม และการส่งเสริม/สนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพสำหรับทุกคน โดยไม่เลือกปฏิบัติในเรื่องเชื้อชาติ เพศ ภาษาหรือศาสนา
  4. เพื่อเป็นศูนย์กลางสำหรับประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งหลายให้กลมกลืนกัน

PREAMBLE

“WE THE PEOPLES OF THE UNITED NATIONS DETERMINED … to save succeeding generations from the scourge of war, which twice in our lifetime has brought untold sorrow to mankind”

หลักการสำคัญของสหประชาชาติ

  1. หลักความเสมอภาคในอธิปไตย: ทุกรัฐมีความเสมอภาคกันในอำนาจอธิปไตย ประเทศสมาชิกสหประชาชาติจึงมีสิทธีเสียงเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นประเทศใหญ่หรือเล็ก
  2. หลักความมั่นคงร่วมกัน: ประเทศสมาชิกต้องรวมกำลังกันเพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงร่วมกัน โดยต้องยอมรับและปฏิบัติตามข้อผูกพันตามกฎบัตร โดยเฉพาะคำวินิจฉัยของคณะมนตรีความมั่นคงระหว่างประเทศ
  3. หลักเอกภาพระหว่างมหาอำนาจ: กฎบัตรให้ความรับผิดชอบพิเศษแก่มหาอำนาจ 5 ประเทศเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงระหว่างประเทศ และให้สิทธิยับยั้ง (Veto)
  4. หลักการไม่ใช้กำลังและการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี: เพื่อจำกัดความขัดแย้งทั้งหลายให้อยู่ในขอบเขต ไม่กระทบสันติภาพโดยส่วนรวม
  5. หลักความเป็นสากลขององค์กร: เปิดกว้างแก่รัฐที่รักสันติทั้งปวง และให้ประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพึงปฏิบัติตามหลักการของสหประชาชาติเท่าที่จำเป็นแก่การรักษาสันติภาพ
  6. หลักการเคารพเขตอำนาจศาลภายใน: ไม่มีข้อความใดในกฎบัตรที่ให้อำนาจแก่สหประชาชาติเข้าแทรกแซงกิจการที่อยู่ในเขตอำนาจภายในของรัฐ