เมืองโบราณศรีเทพได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งที่ 7 ของประเทศไทย

เมืองโบราณศรีเทพได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งที่ 7 ของประเทศไทย

วันที่นำเข้าข้อมูล 19 ก.ย. 2566

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 22 ก.ย. 2566

| 250 view

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก (World Heritage Committee - WHC) สมัยสามัญ ครั้งที่ 45 ณ กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย มีมติให้ขึ้นทะเบียนแหล่งเมืองโบราณศรีเทพเป็นมรดกโลกภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ ค.ศ. 1972 (Convention Concerning the Protection of the World Cultural and Natural Heritage) หรือ อนุสัญญามรดกโลก ขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก (UNESCO) โดยแหล่งเมืองโบราณศรีเทพเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกลำดับที่ 7 ของไทย ก่อนหน้านี้ไทยมีมรดกโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว 6 แห่ง ได้แก่ (1) เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร (2)  นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาและเมืองบริวาร (3) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร - ห้วยขาแข้ง (4) แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง (5) ผืนป่าดงพญาเย็น - เขาใหญ่ และ (6) กลุ่มป่าแก่งกระจาน

เมืองโบราณศรีเทพตั้งอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ประกอบด้วยแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม 3 แหล่งที่สัมพันธ์และเกี่ยวข้องกัน คือ เมืองโบราณศรีเทพ โบราณสถานเขาคลังนอก และโบราณสถานถ้ำเขาถมอรัตน์ มีอายุมากกว่า 1,500 ปี และด้วยสภาพภูมิประเทศที่มีความเหมาะสม จึงมีการอยู่อาศัยของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งเป็นเมืองโบราณในวัฒนธรรมทวารวดีที่มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว มีผังเมืองที่มีอัตลักษณ์แตกต่างไปจากผังเมืองทวารวดีทั่วไป และยังมีรูปแบบศิลปกรรมที่โดดเด่นและแตกต่างจากสมัยทวารวดีในที่อื่นๆ จนได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปกรรมในสกุลช่างศรีเทพ

การขึ้นทะเบียนมรดกโลกครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจของไทยและถือเป็นการสร้างความตระหนักรู้ในระดับสากลต่อคุณค่าและความสำคัญของแหล่งเมืองโบราณศรีเทพในฐานะมรดกโลกทางวัฒนธรรม รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นของการผสานความร่วมมือในการดำเนินงานร่วมกันของภาคส่วนต่างๆ ในกรอนุรักษ์ ฟื้นฟู คุ้มครอง และป้องกัน เมืองโบราณศรีเทพให้เป็นแหล่งเรียนรู้และสมบัติของคนรุ่นใหม่และคนทั้งโลกต่อไป

อนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ค.ศ. 1972 ได้รับการรับรองในที่ประชุมสมัยสามัญของยูเนสโก เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2515 โดยมีแรงบันดาลใจจากการที่นานาประเทศได้ร่วมกันบริจาคเงินกว่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐผ่านยูเนสโกให้แก่อียิปต์และซูดาน เพื่อเคลื่อนย้ายและบูรณะวิหาร Abu Simbel ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมภายหลังการก่อสร้างเขื่อนอัสวาน ปัจจุบัน มีรัฐภาคี 195 ประเทศ การเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกแสดงถึงความมุ่งมั่นของรัฐภาคีที่จะสงวนรักษาความโดดเด่นทางธรรมชาติและวัฒนธรรมไว้สำหรับคนรุ่นหลัง รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้แก่สาธารณชน

 

Credit เนื้อหาจากข่าวสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ

รูปภาพจากคณะผู้แทนไทยและเจ้าหน้าที่กรมองค์การระหว่างประเทศ ณ ที่ประชุม WHC 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ